วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

บันทึกการเรียนครั้งที่13


วันอังคาร ที่ 3 เมษายน 2561


หน่วยผลไม้เพื่อสุขภาพ (วันพุธ)
(ประโยชน์ของผลไม้)

วัตถุประสงค์
เพื่อให้เด็ก
    1.บอกประโยชน์ของผลไม้ได้
    2.สนทนากับครูและเพื่อนๆได้
    3.แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น
    4.ฝึกทักษะกระบวนการคิด
สาระที่ควรเรียนรู้
ประโยชน์ของผลไม้
  1. เป็นอาหารให้กับคนและสัตว์
  2. มีวิตามิน ช่วยบำรุงส่วนต่างๆ ของร่างกายและมีใยอาหาร ช่วยในระบบขับถ่าย
  3.เราจะถนอมอาหารไว้กินนานด้วยวิธี การอบแห้ง ตาก
  4. สร้างอาชีพและสร้างรายได้ เช่น ขายผลไม้ ชาวสวน และนำไปแปรรูปเพื่อส่งออก
ประสบการณ์สำคัญ
  1.การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น
  2.การแสดงความรู้สึกด้วยคำพูด
  3.การมีโอกาสได้รับความรู้สึก ความสนใจ ความต้องการของตนเองและผู้อื่น
  4.การพูดกับผู้อื่นเกี่ยวกับประสบการณ์ของตนเอง

กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ
  1.ครูเล่านิทานให้เด็กฟัง เรื่อง ผลไม้ดีมีประโยชน์
ขั้นสอน
 2. ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับนิทานโดยใช้คำถาม ดังนี้
    -ในนิทานมีผลไม้อะไรบ้าง
    -เด็กๆรู้จักผลไม้ชนิดไหนอีกบ้าง
    -ในนิทานผลไม้มีประโยชน์อย่างไรบ้าง
    -นอกใจนิทานเด็กๆคิดว่าผลไม้มีประโยชน์อะไรบ้าง
    -ในนิทานมีการถนอมผลไม้อย่างไรบ้าง
    -นอกจากในนิทานเด็กๆมีวิธีถนอมผลไม้ด้วยวิธีใดบ้าง
3.ครูถามความรู้เดิมเด็กเกี่ยวกับประโยชน์และวิธีถนอมผลไม้
4.ครูเขียนลงมายแม็บ ประโยชน์ผลไม้และวิธีถนอมอาหาร
ขั้นสรุป
5.ครูและเด็กร่วมกันสรุปประโยชน์และวิธีถนอมผลไม้
ครูให้ตัวแทนเด็กออกมาจับคู่ประโยชน์ผลไม้

สื่อ
   1.นิทาน เรื่อง ผลไม้ดีมีประโยชน์
   2.มายแม็บประโยชน์ผลไม้
   3.มายแม็บวิธีถนอมอาหาร
การประเมิน
การสังเกต
   1.การบอกประโชน์ของผลไม้
   2.การสนทนากับครูและเพื่อนๆ
   3.การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น
   4.การทักษะกระบวนการคิดในการตอบคำถาม

ข้อเสนอแนะจากอาจารย์
  1. ประโยชน์ของผลไม้และวิธีถนอมผลไม้ สามารถสอนคนละวันกันได้
  2. มีภาพมาติดด้วย ให้เด็กเห็น
  3. สอนน้อยๆ ให้เด็กสามารถเชื่อมโยงได้
  4. ถามในนิทานให้เสร็จก่อน หลังจากนั้นถามประสบการณ์เดิม
  5. รูปภาพไม่ควรวางกับพื้น ควรวางบนโต๊ะ
  6. ผลไม้ ควรมาอยู่ข้างหน้า ผลไม้ >>> ประโยชน์
  7. ทบทวนด้วยการจับคู่

หน่วย ตัวฉัน (วันพุธ)
(การดูแลรักษาร่างกาย)


ข้อเสนอแนะจากอาจารย์
  1. สอนทีละขั้นตอน
  2. เอารูปภาพมาติดก่อน จากนั้นทำให้เด็กดู
  3. เพลงต้องมีความสอดคล้องกับเนื้อหาของขั้นตอนการล้างมือ

หน่วย ประสาทสัมผัสทั้ง 5 (วันพฤหัสบดี)
(หน้าที่ของอวัยวะ "หู")

วัตถุประสงค์
    1. เด็กสนทนาเรื่องการได้ยินร่วมกันได้
    2. เด็กเปรียบเทียบเสียงที่ได้ยินได้
    3. เด็กบอกแหล่งกำเนิดเสียงได้

สาระที่ควรเรียนรู้
      - แหล่งกำเนิดเสียง
      -  ธรรมชาติ
      -  มนุษย์สร้างขึ้น
ประสบการณ์สำคัญ
ด้านร่างกาย
    1. การรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นในกิจวัตรประจำวัน
ด้านอารมณ์-จิตใจ
    2. การแสดงปฏิกริยาโต้ตอบเสียงดนตรี
ด้านสังคม
    3. การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น
ด้านสติปัญญา
    4. การรู้จักสิ่งต่างๆด้วยการมอง ฟัง สัมผัส  ชิมรสและดมกลิ่น

กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ
   1.ครูและเด็กๆร่วมกันร้องเพลง “ ตาดูหูฟัง ”
                    เรามีตาไว้ดู เรามีหูไว้ฟัง
                    คุณครูท่านสอนท่านสั่ง
                    ต้องตั้งใจฟัง ต้องตั้งใจดู
   2.ครูและเด็กๆร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการได้ยิน
ขั้นสอน
  3.ครูให้เด็กๆฟังเสียงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ดังนี้ ฝนตก ฟ้าผ่า นกร้อง แล้วให้เด็กๆบอกว่าได้ยินเสียงอะไร จากนั้นบันทึกผล
  4.ครูให้เด็กๆฟังเสียงที่เกิดขึ้นจากมนุษย์ ดังนี้ ร้องเพลง ดนตรี เสียงพูด แล้วให้เด็กๆบอกว่าได้ยินเสียงอะไร จากนั้นบันทึกผล
  5.ครูให้เด็กๆแยกเสียงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและเกิดขึ้นจากมนุษย์
ขั้นสรุป
   6.ครูสนทนาร่วมกันกับเด็กเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดเสียงว่ามีอะไรบ้าง เสียงที่เรียนไปมีเสียงอะไรบ้างและนอกเหนือจากที่เรียนไปมีเสียงอะไรอีกบ้าง

สื่อ
   - ชาร์จเพลง
   - เสียงต่างๆ
   - ตารางบันทึกผล
   - ตารางแยกแหล่งกำเนิดเสียง
การประเมิน
การสังเกตจาก
  1. เด็กสามารถสนทนาเรื่องการได้ยินร่วมกันได้
  2. เด็กสามารถเปรียบเทียบเสียงที่ได้ยินได้
  3.  ด็กสามารถบอกแหล่งกำเนิดเสียงได้

ข้อเสนอแนะจากอาจารย์
  1. วัตถุประสงค์ต้องสอดคล้องกัน
  2. สาระที่ควรเรียนรู้ ต้องเขียนอธิบายให้ชัดเจน
  3. ประสบการณ์สำคัญเขียนให้สอดคล้องกับเรื่อง
  4. เพลงที่เอามานั้น ต้องสอนเรื่องหู (สามารถแต่งขึ้นเองได้)
  5. หยิบภาพมาติด (ภาพควรมีตัวลวงด้วย)
  6. ควรเลือกแค่เกณฑ์เดียว คือ เสียงธรรมชาติ กับ ไม่ใช่เสียงธรรมชาติ
  7. ควรมีภาพให้เห็น

หน่วย ใต้ร่มเงาไม้ (วันพฤหัสบดี)
(ประโยชน์ของต้นไม้)

วัตถุประสงค์
1.เพื่อให้เด็กร่วมสนทนากับครูได้
2.เพื่อให้เด็กบอกประโยชน์ของต้นไม้ได้อย่างน้อย 5 อย่าง
3. เด็กตอบคำถามได้
สาระที่ควรเรียนรู้
    - ต้นไม้มีประโยชน์หลายด้านทั้งต่อตนเอง ต่อโลก และในการสร้างอาชีพ ได้แก่ ไม้แปรรูป เป็นต้น
ประสบการณ์สำคัญ
ด้านร่างกาย
- การประสานสัมพันธ์ระหว่างตากับมือ
ด้านอารมณ์และจิตใจ
- . การร่วมกิจกรรมด้วยความสนุกสนาน
ด้านสังคม
- การเล่นและทำงานร่วมกับผู้อื่น
ด้านสติปัญญา
- การแสดงความรู้สึกด้วยคำพูด

กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ
1. ครูแจกจิ๊กซอว์รูปโต๊ะเก้าอี้ให้เด็กออกมาต่อให้สมบูรณ์ที่กระดานหน้าห้อง
2. ครูสนทนาเกี่ยวกับจิ๊กซอว์รูปโต๊ะเก้าอี้ “เด็กๆทราบไหมว่าโต๊ะเก้าอี้ทำมาจากอะไร” หลังจากนั้นครูก็ถามเด็กๆจากประสบการณ์เดิมว่าเด็กๆลอง มองรอบๆห้องเรียนสิว่ามีอะไรบ้างที่ทำมาจากต้นไม้นอกเหนือจากรูปภาพที่ครูเอามา                                       
ขั้นสอน
3. ครูบอกประโยชน์ของต้นไม้ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ประโยชน์ต่อตนเอง  ประโยชน์ต่อโลก ประโยชน์ในการสร้างอาชีพ 
4. ครูให้เด็กออกมาเลือกรูปภาพที่ครูเตรียมไว้แล้วให้เด็กๆช่วยกันดูว่ารูปภาพที่เด็กๆเลือกมาเป็นประโยชน์ในด้านไหนแล้วนำมาติดลงในตาราง                                                         
ขั้นสรุป
5. ครูและเด็กร่วมกันสรุปประโยชน์ของต้นไม้    “ครูถามเด็กๆว่าสรุปแล้วต้นไม้สามารถนำมาทำอะไรได้บ้าง”                       

สื่อ
- จิ๊กซอว์รูปโต๊ะเก้าอี้
- แผ่นบันทึกประโยชน์ของต้นไม้
- แผ่นตารางบันทึก
- รูปภาพประโยชน์ของต้นไม้
การประเมิน
สังเกตจาก
1.การตอบคำถามการแลกเปลี่ยนความคิดของเด็ก
2.เด็กบอกประโยชน์ของต้นไม้ได้อย่างน้อย 5 อย่าง
3.การสนทนาถามเด็ก

ข้อเสนอแนะจากอาจารย์
  1. ควรมีรูปภาพมาให้เด็กเห็น
  2. เชิงพาณิชย์ คำยากไป เปลี่ยนเป็น "อาชีพ"
  3. ไม่ควรเอาภาพเดียวกัน
  4. ต้องมีจังหวะการสอน


หน่วย ตัวฉัน (วันพฤหัสบดี)
(การปฏิบัติตนให้มีพลานามัยที่ดี)

วัตถุประสงค์
   1.  เพื่อให้เด็กบอกการปฏิบัติตนให้มีพลานามัยดีได้
   2.  เพื่อให้เด็กร่วมสนทนากับครูได้
   3. เด็กร่วมกิจกรรมด้วยความสนุกสนาน
สาระที่ควรเรียนรู้
      - การปฏิบัติตนให้มีพลานามัยที่ดี ได้แก่ การออกกำลังกาย, การกินอาหารที่มีประโยชน์, การพักผ่อน และการดูแลรักษาความสะอาดของร่างกาย
ประสบการณ์สำคัญ
ด้านร่างกาย
    1. การประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตา
ด้านอารมณ์ – จิตใจ
    2. การร่วมกิจกรรมด้วยความสนุกสนาน
ด้านสังคม
    3. การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น
ด้านสติปัญญา
    4. การใช้ภาษาในการตอบคำถาม
    5. การคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล

กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ
1. ครูร้องเพลง ให้เด็กๆ เอามือปิดตา จากนั้นครูแจกชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ให้เด็กตัวแทนออกมาต่อเป็นรูป
2. จากภาพที่สมบูรณ์ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับภาพการออกกำลังกายด้วยการถามคำถาม และตอบคำถาม
- ในภาพเด็กๆคิดว่าเขาทำอะไร
- แล้วเขาทำไปทำไม
ขั้นสอน
3. ครูสนทนาและแสดงข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติตนให้มีพลานามัยดี   โดยใช้คำถามดังนี้
- เด็กๆ คิดว่าการออกกำลังกายมีอะไรบ้าง
ขั้นสรุป
 4. เด็กและครูสนทนาร่วมกัน สรุปถึงวิธีการปฏิบัติตนให้มีพลานามัยที่ดี

สื่อ
1.จิ๊กซอว์ภาพการออกกำลังกาย
2.บัตรภาพกิจกรรมต่างๆ
3.Mindmap การปฏิบัติตนให้มีพลานามัยที่ดี
การประเมิน
การสังเกตจาก
1. การตอบคำถามขณะทำกิจกรรม
2. การแสดงออกขณะทำกิจกรรม

ข้อเสนอแนะจากอาจารย์
  1. มีภาพใหญ่ก่อน ถามประสบการณ์เดิม
  2. ภาพในขั้นนำต้องเชื่อมโยงกับการสอน
  3. ควรมีการอธิบายภาพที่เด็กเลือกติด


หน่วย อาหารดีมีคุณค่า (วันพฤหัสบดี)
(ประโยชน์ของอาหาร)



วัตถุประสงค์
   1. เด็กบอกวัตถุดิบในการทำหมูสร่งได้
   2. เด็กบอกขั้นตอนการทำหมูสร่งได้
   3. เด็กบอกรสชาติของหมูสร่งได้
สาระที่ควรเรียนรู้
     - วัตถุดิบ ขั้นตอนในการทำและรสชาติหมูโสร่ง
ประสบการณ์สำคัญ
ด้านร่างกาย
  - การปฏิบัติตนตามสุขอนามัย
 ด้านอารมณ์
  - การร้องเพลง
 ด้านสังคม
   - การเล่นและการทำงานร่วมกับผู้อื่น
ด้านสติปัญญา
   - การรู้จักสิ่งต่างๆด้วยการมอง ฟัง สัมผัส ชิมรสและดมกลิ่น

กิจกรรมการเรียนรู้                                                             
ขั้นนำ
     - ครูและเด็ก ๆ ร่วมกันทำกิจกรรมเปิดภาพปริศนา
ขั้นสอน
    - ครูและเด็ก ๆ สนทนาเกี่ยวกับหมูโสร่ง เช่น
            “เด็กๆรู้จักหมูสร่งไหมคะ”
            “เด็กๆเคยรับประทานหมูสร่งไหมคะ” เป็นต้น
    - ครูและเด็กๆร่วมกันอ่านวัตถุดิบ อุปกรณ์และวิธีการทำหมูสร่ง
    - ครูสาธิตวิธีการทำหมูสร่ง
    - ครูให้เด็กแบ่งกลุ่ม 4 กลุ่ม  ครูขอตัวแทนออกมารับวัตถุดิบ อุปกรณ์
    - สมาชิกในกลุ่มร่วมมือกันทำหมูสร่ง
    - ครูขอตัวแทนของแต่ละกลุ่ม 1 คนออกมานำเสนอหมูสร่ง
ขั้นสรุป
    - ครูตั้งคำถามว่า “วัตถุดิบในการทำหมูสร่งมีอะไรบ้าง?” “หมูสร่งมีขั้นตอนในการทำอย่างไร?” “รสชาติเป็นอย่างไร?”

สื่อ
   - แผ่นชาร์ทวัตถุดิบและวัตถุดิบจริงในการทำหมูโสร่ง
   - แผ่นชาร์ทอุปกรณ์และอุปกรณ์จริงในการทำหมูโสร่ง
   - แผ่นชาร์ทขั้นตอนการทำหมูโสร่ง
การประเมินผล
สังเกตจากการทำกิจกรรมของเด็ก
   1. เด็กสามารถบอกวัตถุดิบในการทำหมูโสร่งได้
   2. เด็กสามารถบอกขั้นตอนการทำหมูโสร่งได้
   3. เด็กบอกรสชาติของหมูโสร่งได้

ข้อเสนอแนะจากอาจารย์
  1. ควรเตรียมของไว้ให้เด็กเรียบร้อย
  2. ควรบอกสัดส่วนของวัตถุดิบให้ชัดเจน ให้เด็กได้เรื่องของคณิตศาสตร์
  3. วิธีการจัดกลุ่ม ไม่ต้องเวียนฐาน มีอุปกรณ์ไว้ให้ครบทุกจุด
ทักษะ
  • ทักษะการฟัง
  • ทักษะการคิด
  • ทักษะการต่อยอดความรู้
  • ทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ
  • ทักษะการคิดอย่างมีแบบแผน
  • ทักษะการสื่อสาร
  • ทักษะการนำเสนอข้อมูล
นำไปใช้  : สามารถนำความรู้ที่ได้รับจากคำแนะนำของอาจารย์ไปใช้ในการเขียนแผนการสอนต่อไป

ประเมินตนเอง: มาเรียนตรงเวลา แต่งกายมาเรียนถูกระเบียบตามที่อาจารย์กำหนดในคาบเรียน
ประเมินเพื่อน: เพื่อนแต่งการถูกระเบียบ มาเรียนตรงเวลา ให้ความร่วมมือในการตอบคำถาม
ประเมินอาจารย์: อาจารย์มาสอนตรงเวลา แต่งกายเหมาะสม เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงความคิดเห็น

บันทึกการเรียนครั้งที่12


วันจันทร์ ที่ 2 เมษายน 2561

หน่วยอาหารดีมีคุณค่า (วันพุธ)
กิจกรรมการเรียนรู้
 ขั้นนำ 
      1. ครูเล่านิทานเรื่องอาหารดีมีประโยชน์ แล้วสนทนาเนื้อหาในนิทาน
      2. ครูใช้คำถาม อาหารที่เด็กทานมามีอะไรบ้าง
 ขั้นสอน
      3. ครูนำภาพอาหารให้เด็กดู ถามว่าอาหารที่นำมาอยู่ในกลุ่มอะไร
      4. ครูถาม ถ้าเด็กๆ อยากแข็งแรง เด็กๆ ต้องเลือกทานอาหารอะไร (สัมพันธ์นิทาน)

ข้อเสนอแนะจากอาจารย์
  • นิทานควรมีฉากประกอบ และให้เด็กมีส่วนร่วมด้วย
  • ควรมีตัวละครมากกว่า 2 ตัว
  • ไม่ควรเอาแผ่นภาพไปติดบนกระดาษ ควรให้เด็กตื่นเต้นให้เด็กเห็นแค่แปปเดียว

หน่วยผีเสื้อ (วันพุธ)
(การดำรงชีวิตของผีเสื้อ)

กิจกรรมการเรียนรู้
  สงบเด็ก : ตบมือข้างซ้ายๆ ตบมือข้างขวาๆ เรามาเรียนกันมา ตบมือข้างซ้าย ตบมือข้างขวา 
ขั้นนำ 
       1. ครูและเด็กร่วมกันร้องเพลง Butterfly 
ขั้นสอน
       2. ครูสอนวงจรชีวิตของผีเสื้อ

ข้อเสนอแนะจากอาจารย์
  • ควรถามเด็กจากเพลง
  • ครูพูดคุยกับเด็กเกี่ยวกับวงจรชีวิตของผีเสื้อ
  • ควรเขียนก่อนแล้วนำภาพผีเสื้อไปติด
  • ในเนื้อเพลงควรมีภาพให้เด็กเห็น
  • สนทนาในเนื้อเพลงก่อน

หน่วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 (วันพุธ)
(หน้าที่ของอวัยวะ ลิ้น)

กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ 
      1. ครูใช้ปริศนาคำทาย อะไรเอ่ย? ตัวฉันเป็นใคร อยู่ในปากคน แลบเลียสับสน รสหวาน เปรี้ยว เค็ม
ขั้นสอน
      2. ครูอธิบายลิ้นมีหน้าที่รับรส
      3. ครูมีภาชนะ 2 รส มาให้เด็กชิม ได้แก่ รสเค็ม รสหวาน ให้เด็กๆ ออกมาชิม
      4. ครูอธิบายว่า ถ้าเรามองด้วยตาเปล่าเราจะรู้ไหมว่ารสชาติเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นเราต้องชิม

ข้อเสนอแนะจากอาจารย์
  • มีตารางสำหรับนำเสนอข้อมูล
  • ใช้ 2 ถ้วย คือ รสเค็มกับรสหวาน
  • ให้เด็กมาติดในตารางว่าอันไหนรสเค็ม อันไหนรสหวาน

หน่วยบ้าน(วันพุธ)
(สมาชิกในบ้าน)

กิจกรรมการเรียนรู้
     สงบเด็ก : จิบจิบจิ้บ จิบจิบจิบจิ้บ กระพือปีกซ้าย กระพือปีกขวา กระพือปีกไปมา จิบกลับเข้ารัง
ขั้นนำ 
      1. ครูและเด็กร่วมกันร้องเพลง " พี่น้องกัน "
ขั้นสอน
      2. ครูสอนความสัมพันธ์ของสมาชิกในบ้าน
      3. ครูให้เด็กนำภาพสมาชิกมาติดในกราฟฟิก
ขั้นสรุป
      4. ที่บ้านเรามีใครกันบ้าง แล้วเราดูแลกันยังไง

ข้อเสนอแนะจากอาจารย์
  • ตารางความสัมพันธ์สมาชิกในบ้านไม่ต้องทำซับซ้อนมากเกินไป
  • เวลาเขียนควรเขียนให้ชัดเจน
  • ให้เด็กเห็นชัดเจน จากลูก >>>> พ่อแม่
  • ควรเขียนตัดใหญ่ๆ
  • เริ่มต้นที่ "ตัวเรา"
  • วาดแผนผังให้ตรง

หน่วยใต้ร่มเงาไม้ (วันพุธ)
(การดูแลรักษาต้นไม้)

วัตถุประสงค์
    1. เด็กปฏิบัติตามคำสั่งของครูได้
    2. เด็กบอกขั้นตอนการปลูกต้นถั่วเขียวและวิธีการดูแลรักษาได้
    3. เด็กบอกการเปลี่ยนแปลงของต้นถั่วเขียวได้

สาระที่ควรเรียนรู้
ขั้นตอนการปลูกต้นถั่วเขียว
   1. วางกระดาษทิชชู่ไว้ในแก้ว แล้วพรมน้ำให้เปียก
   2. ใช้ช้อนตักเมล็ดถั่วเขียว 4-5 ช้อน แล้วโรยลงในแก้ว
   3. นำกระดาษทิชชู่มาวางทับเมล็ดถั่วเขียวที่ แล้วพรมน้ำให้เปียก
วิธีการดูแลต้นถั่วเขียว
  รดน้ำทุกวันวันละ 3-4 เวลา หรือนำไปไว้ในที่ที่มีแสงแดดเพื่อให้ต้นถั่วเขียวเจริญเติบโต

ประสบการณ์สำคัญ
ด้านร่างกาย
  - การประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตา
  - การปฏิบัติตนตามสุขอนามัย
ด้านอารมณ์ – จิตใจ
  - การแสดงออกอย่างสนุกสนานในการกิจกรรม
ด้านสังคม
  - การเล่นและการทำงานร่วมกับผู้อื่น
ด้านสติปัญญา
  - การแสดงความรู้สึกด้วยคำพูด
  - การอธิบายเกี่ยวกับสิ่งของ เหตุการณ์ และความสัมพันธ์ ของสิ่งต่างๆ
  - การทดลองสิ่งต่างๆ

กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ
1. ครูและเด็กร้องเพลง “ดูแลรักษาต้นไม้”
       ต้นไม้จะใหญ่งอกงาม
       เราพยายามบำรุงรักษา
       รดน้ำ พรวนดิน ถอนหญ้า
       ใส่ปุ๋ย และฆ่าแมลง ด้วยเอย
2. ครูถามเด็กว่าในเพลงนี้มีวิธีการดูแลต้นไม้อย่างไรบ้าง แล้วนอกเหนือจากในเพลงนี้มีวิธีการดูแลรักษาต้นไม้อย่างไรอีกบ้าง แล้วบันทึกลงแบบบันทึกการดูแลต้นไม้
ขั้นสอน
3. ครูแนะนำอุปกรณ์และสนทนาถามว่า เด็กๆรู้จักอุปกรณ์อะไรบ้าง แล้วเด็กๆ คิดว่าจะเอามาทำอะไร
4. ครูสาธิตขั้นตอนในการปลูกต้นถั่วเขียว และมีตัวอย่างให้ดู โดย ครูจะปลูกต้นถั่วเขียวไว้ 2 กระถาง
   - กระถางที่ 1 ครูเอากระป๋องครอบไว้
   - กระถางที่ 2 ครูจะไม่รดน้ำ แต่ได้รับแสงแดด
5. ครูแบ่งกลุ่มให้เด็ก กลุ่มละเท่าๆกัน แล้วให้เด็กลงมือปฏิบัติการปลูกต้นถั่วเขียว
6. ให้เด็กสังเกตการเปลี่ยนแปลงของต้นถั่วงอก และบันทึกการเปลี่ยนแปลง
ขั้นสรุป
7. ครูและเด็กร่วมกันสรุปกิจกรรม ขั้นตอนการปลูกต้นถั่วเขียวและวิธีการดูแลรักษา

สื่อ
      - แผ่นชาร์ทเพลง “ดูแลรักษาต้นไม้”
      - แผ่นชาร์ทอุปกรณ์ในการปลูกต้นถั่วเขียว และขั้นตอนการปลูกต้นถั่วเขียว
      - แผ่นชาร์ทแบบบันทึกการเปลี่ยนแปลงของต้นถั่วเขียว
      - แผ่นชาร์ทบันทึกการดูแลต้นไม้
      - เมล็ดถั่วเขียว
      - ช้อนพลาสติกเล็ก
      - แก้วพลาสติก
      - กระดาษทิชชู่
      - น้ำ

การประเมิน
สังเกตจาก
 1. การลงมือปฏิบัติตามคำสั่งของครู
 2. การตอบคำถามและการแสดงความคิดเห็น

ข้อเสนอแนะจากอาจารย์
  • ในเนื้อเพลงควรตัดคำว่า "ฆ่า" ออก เปลี่ยนเป็น กำจัดแมลง (ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก กำจัดแมลงเอย)
  • ขั้นตอนในการปลูก ควรมีลูกศรในแต่ละขั้น
ทักษะ
  • ทักษะการฟัง
  • ทักษะการคิด
  • ทักษะการต่อยอดความรู้
  • ทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ
  • ทักษะการคิดอย่างมีแบบแผน
  • ทักษะการสื่อสาร
  • ทักษะการนำเสนอข้อมูล
นำไปใช้ : สามารถนำความรู้ที่ได้รับจากคำแนะนำของอาจารย์ไปใช้ในการเขียนแผนการสอนต่อไป

ประเมินตนเอง: มาเรียนตรงเวลา แต่งกายมาเรียนถูกระเบียบตามที่อาจารย์กำหนดในคาบเรียน
ประเมินเพื่อน: เพื่อนแต่งการถูกระเบียบ มาเรียนตรงเวลา ให้ความร่วมมือในการตอบคำถาม
ประเมินอาจารย์: อาจารย์มาสอนตรงเวลา แต่งกายเหมาะสม เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงความคิดเห็น

บันทึกการเรียนครั้งที่11


วันจันทร์ ที่ 16 มีนาคม 2561

หน่วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 (วันอังคาร)

กิจกรรมการเรียนรู้ 
  • เริ่มต้นเข้าสู่กิจกรรมด้วยเพลงสัมผัสทั้ง 5 ให้เด็กๆ ร้องเพลงไปพร้อมๆ กัน เข้าสู่ขั้นสอนด้วยกิจกรรมการดมกลิ่น ครูมีกล่อง 2 กล่องที่ 1 ใส่กลินหอมไว้ส่งให้เด็กๆดม กล่องที่ 2 ใส่กลิ่นเหม็น แล้วส่งให้เด็กๆ ดม จากนั้นครูแจกรูปจมูกให้เด็กๆ 2 รูป ให้เด็กๆ วิเคราะห์แล้วนำรูปออกมาติดในตารางที่ครูเตรียมไว้
ข้อเสนอแนะจากอาจารย์
  1. ครูควรให้เด็กแสดงความคิดเห็น เช่น เด็กๆ คิดว่าในกล่องใบที่ 1 เป็นกลิ่นอะไร และใบที่ 2 เป็นกลิ่นอะไร (ความหลากหลายของเด็กต่างกัน)
  2. วิธีการดมกลิ่นนั้น ควรเอามือพัดให้มีลม ไม่ควรสูดดมเข้าไปเพราะบางกลิ่นอาจจะก่อให้เกิดอันตราย
  3. เด็กได้ใช้จมูกในการดมกลิ่น  เด็กใช้จมูกในการแยกแยะของกลิ่น
  4. เพลงสัมผัสทั้ง 5 ควรไปใช้ในวันจันทร์ เพื่อมองเห็นภาพรวมของประสาทสัมผัสทั้ง 5 ว่ามีอะไรบ้าง
  5. วันแรกควรรู้จักประสาทสัมผัสทั้ง 5 ว่ามีอะไรบ้างก่อน พอวันต่อมา ค่อยเอามาทีละชิ้น
  6. ครูควรให้เด็กส่งต่อหรือหยิบหน้าห้องด้วยตนเอง ไม่ควรแจกเด็กทีละคน

หน่วยอาหารดีมีคุณค่า (วันอังคาร)

กิจกรรมการเรียนรู้ 
  • เริ่มต้นด้วยการสงบเด็ก " ปิดหูซ้ายขวา ปิดตาสองข้าง ปิดปากเสียบ้าง แล้วเอามือกอดอก "
  • เข้าสู่กิจกรรมด้วยคำคล้องจอง สนทนาเนื้อหาในคำคล้องจอง ขั้นสอน  ครูนำของที่ใส่ในตระกร้าออกมาให้เด็กสังเกตและให้เด็กทายว่าสิ่งที่ครูนำมาคืออะไร คือ กล่องที่ 1 เป็นมะเขือเทศสด กล่องที่ 2 เป็นมะเขือเทศที่เน่าแล้ว ครูให้เด็กๆ วิเคราะห์ลักษณะ ได้แก่ สี กลิ่น ผิว รูปทรง ส่วนประกอบ
ข้อเสนอแนะจากอาจารย์
  1. ไม่ควรนำมะเขือเทศมาใช้ในหน่วยอาหาร ควรจะนำไปใช้ในหน่วยผักหรือผลไม้มากกว่า
  2. การสอนเรื่องอาหารต้องมีถุงเล็กๆ ใส่อาหารให้เด็กเห็น
  3. ต้องมีตัวเลขกำกับ
  4. นำอาหาร 2 อย่าง มาวิเคราะห์ ได้แก่ อาหารที่ควรรับประทานและอาหารที่ไม่ควรรับประทาน
  5. ควรแยกประเภท อาหารคาวและอาหารหวาน

หน่วยผีเสื้อแสนงาม (วันอังคาร)
สาระ
  • ผีเสื้อมี 2 ชนิด แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือ ผีเสื้อกลางวันและผีเสื้อกลางคืน มีลักษณะที่เหมือนและแตกต่างกัน ได้แก่ สี รูปทรง ส่วนประกอบ ขนาด
กิจกรรมการเรียนรู้ 
  • เริ่มต้นด้วยการสงบเด็ก 2 เพลง เข้าสู่กิจกรรมด้วยการนำภาพผีเสื้อ มาให้เด็กสังเกต 2 ภาพ ภาพที่ 1 คือ ผีเสื้อหนอนใบรัก ภาพที่ 2 คือ ผีเสื้อลายเสือ ให้เด็กวิเคราะห์ลักษณะผีเสื้อ ได้แก่ สีและรูปทรง วิเคราะห์รูปที่ 1 ก่อน
ข้อเสนอแนะจากอาจารย์
  1. ครูควรร้องเพลงแค่เพลงเดียว
  2. รูปภาพควรมีขนาดใหญ่ ต้องเลือกที่มองเห็นชัดๆ
  3. ส่วนประกอบของผีเสื้อต้องมีในตารางวิเคราะห์ข้อมูล
  4. การใช้สัญลักษณ์กำกับเรื่องสี ไม่ควรใช้รูปทรง เช่น สามเหลี่ยมกำกับ ควรใช้การฝนสี 
  5. ควรหารูปที่เห็นส่วนประกอบของผีเสื้อที่ชัดเจน
  6. การเขียนแวนไดอาแกรมต้องเขียนสิ่งที่เหมือนกันก่อนทุกอย่าง
  7. ควรมีการเปรียบเทียบขนาดของผีเสื้อ
  8. ควรเขียนให้เป็นระบบ มีการวางแผนก่อนล่วงหน้า
  9. ข้างล่างของแวนไดอาแกรม ต้องมีการเขียนสรุป
  10. ควรมีเลขกำกับ เช่น ตา = 2 หนวด = 2 ปาก = 1 ขา = 6 (เป็นคลังคำศัพท์ของเด็ก)


หน่วยบ้านแสนสุข (วันอังคาร)

กิจกรรมการเรียนรู้
  • เริ่มต้นด้วยการสงบเด็ก " กำมือซ้าย กำมือขวา ชูมือมา วางตรงนี้แหละ "
  • เข้าสู่กิจกรรมด้วยนิทานลูกหมู 3 ตัว ครูนำรูปภาพบ้านมาให้เด็กสังเกต 3 ภาพ ได้แก่ บ้านฟาง บ้านไม้ และบ้านปูน มาใส่ในตาราง แล้วให้เด็กวิเคราะห์ลักษณะของบ้าน ได้แก่ วัสดุที่ใช้สร้าง รูปทรง ส่วนประกอบ หลังจากวิเคราะห์แล้วนำมาเปรียบเทียบความเหมือนความต่างในแวนไดอะแกรม
ข้อเสนอแนะจากอาจารย์
  1. ส่วนประกอบของบ้าน ควรนำไปไว้ข้างหลังสุดของตารางวิเคราะห์ข้อมูล
  2. ควรให้เด็กมีส่วนร่วมในการติดภาพ 
  3. ควรเพิ่มเวลาในการสร้างบ้างลงไปในตารางวิเคราะห์ข้อมูล

ทักษะ
  • ทักษะการฟัง
  • ทักษะการคิด
  • ทักษะการต่อยอดความรู้
  • ทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ
  • ทักษะการคิดอย่างมีแบบแผน
  • ทักษะการสื่อสาร
  • ทักษะการนำเสนอข้อมูล
นำไปใช้ : สามารถนำความรู้ที่ได้รับจากคำแนะนำของอาจารย์ไปใช้ในการเขียนแผนการสอนต่อไป

ประเมินตนเอง: มาเรียนตรงเวลา แต่งกายมาเรียนถูกระเบียบตามที่อาจารย์กำหนดในคาบเรียน
ประเมินเพื่อน: เพื่อนแต่งการถูกระเบียบ มาเรียนตรงเวลา ให้ความร่วมมือในการตอบคำถาม

ประเมินอาจารย์: อาจารย์มาสอนตรงเวลา แต่งกายเหมาะสม เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงความคิดเห็น